เทปน้ำหยด เป็นยังไง และก็ส่วนดีส่วนเสียของระบบน้ำหยด

f:id:Selamudder80:20200609115033j:plain

ระบบน้ำหยด

ระบบน้ำหยดเป็นแนวทางหนึ่งในหลายวิธี ระบบน้ำหยดมีลักษณะเป็นน้ำหยด จากหัวน้ำหยดหรือท่อน้ำหยด/ท่อน้ำพุ่ง/เทปน้ำหยด รวมทั้งแนวทางการทำให้น้ำด้วยระบบสเปร์ขนาดเล็ก หรือหัวพ่นหมอก

 

ระบบน้ำหยด เป็นการให้น้ำแก่พืชโดยการส่งน้ำผ่านระบบท่อและก็ปล่อยน้ำออกทางหัวน้ำหยด ซึ่งจะติดตั้งไว้รอบๆโคนของต้นพืช และก็น้ำจะหยดซึมลงมาที่รอบๆรากพืชอย่างช้าๆและก็บ่อย เหมาะกับดินร่วนซุย ทำให้ดินมีความชุ่มชื่นคงที่ในระดับที่พืชอยากได้ และทำให้พืชเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ

 

f:id:Selamudder80:20200609115055j:plain

ระบบน้ำหยด

ระบบน้ำหยด คือระบบการปล่อยน้ำในปริมาณช้าๆตามตำแหน่งที่อยากอย่างตรงจุด เทปน้ำหยด เหมาะกับ ไร่อ้อย มันสำประหลัง ข้าวโพด แตงโม เมล่อน อื่นๆอีกมากมาย

 


จัดการน้ำ ระบบเทปน้ำหยด ชลประทานการจัดการน้ําเพื่อการเกษตร


เทปน้ำหยด แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหมายถึง
1. เทปน้ำหยดแบบแบน คุณลักษณะเด่นหมายถึงราคาน้อยมากกว่า ม้วนเก็บสายง่ายยิ่งกว่า เพราะว่าไม่มีกิ๊บด้านใน แต่เวลาวาง จำต้องวางให้ถูก โดยวางตะเข็บหงายขึ้น จะหยดดี หยดไว
2. เทปนน้ำหยดแบบกลม (กิ๊บ) จุดแข็งเป็นเกษตรกรคนไม่ใช่น้อยถูกใจเทปกลมเพราะ การวางสายจะง่ายดายยิ่งกว่า

 

ข้อดีของการให้น้ำพืชด้วยระบบน้ำหยด เป็น​ เทปน้ำหยดราคาถูก ความประหยัดด้วยการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากว่าให้น้ำพืชในปริมาณที่พอดีและก็ถูกจุดหรือ ละแวกที่พืชต้องการ ทำให้พืชเจริญวัยได้ดี ส่วนวัชพืชที่ไม่อยากให้เติบโตนั้นก็จะขาด แคลนน้ำไปตามสภาพ เหมาะกับพืชต้นเล็กถึงปานกลางหรือเกษตรกรบางรายก็ปรับเปลี่ยนทำเป็นวงกลมแล้ว เทปน้ำหยดปล่อยน้ำหยดหลายจุดให้กับพืชต้นเดียวสำหรับพืชยืนต้นที่มีลำต้นใหญ่รวมทั้งรัศมี รากกว้าง

ข้อบกพร่องของการให้น้ำพืชด้วยระบบน้ำหยด เป็นน้ำจำต้องสะอาด จะต้องทำระบบกรองน้ำให้กับระบบ เพราะเหตุว่ารูน้ำหยดอุดตันง่าย ปั๊มที่ใช้ควรเป็นปั๊มที่มีแรงดันสูงได้แก่ ปั๊มรุ่น 4020 แรงดันสูงสุด 7.2 บาร์ เมื่อท่านวางระบบเรียบร้อยระวังอยู่ 2 อย่างคือ หนูทุ่งนา กับไฟป่าให้ตรวจเช็คทุกๆอาทิตย์ ถ้าหากฝังดิน หนูจะกัดขาด

 


เทปน้ำหยดใช้กับพืชอะไรได้บ้าง...? ระยะหยดเท่าไหร่...? เหมาะกับพืชอะไร...? เรามีคำตอบ

 

จุดเด่นของระบบการให้นํ้าแบบนํ้าหยด (แยกเป็นข้อๆ)
1. สมรรถนะการให้นํ้าสูงมากมาย เนื่องจากว่าสามารถควบคุมนํ้าได้ทุกขั้นตอน และก็มีการสูญเสียโดยการระเหยน้อย
2. ค่าใช้สอยสำหรับในการให้นํ้าน้อยเนื่องจากว่าไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานสำหรับในการให้นํ้ามากมาย
3. สามารถให้ปุ้ยและสารเคมีอื่นๆแก่พืชพร้อมๆกับการให้นํ้าได้ด้วย โดยการผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือสารเคมีเข้ากับนํ้าทางท่อดูดของเครื่องสูบนํ้าเข้าไปในระบบ
4. ไม่มีปัญหาโรคพืชหรือแมลงที่เกี่ยวโยงจากการเปียกแฉะของใบ
5. ลดปัญหาของการแพร่ของวัชพืชเพราะว่านํ้าที่ให้แก่พืชจะแฉะผิวดินเป็นบริเวณแคบๆเพียงแค่นั้น
6. ไม่มีปัญหาเรื่องลมแรงที่จะพัดพานํ้าไปตกที่อื่น
7. ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ระบบส่งนํ้าขนาดใหญ่หรือเครื่องสูบนํ้าที่มีแรงม้าสูง
8. ด้วยเหตุว่าการให้ปุ๋ยอินทรีย์และก็สารเคมีโดยการผสมลงไปกับนํ้า ด้วยเหตุนี้ค้าใช้จ่ายสําหรับปุ๋ยธรรมชาติแล้วก็สารเคมีก็จะน้อยลงด้วย
9. ระบบการให้นํ้าอย่างนี้จะมีระยะเวลาการใช้แรงงานที่นานยกเว้นเรื่องการอุดตันของหัวจ่ายนํ้า
10. สามารถทําการติดตั้งการให้นํ้าแบบอัตโนมัติได้ไม่ยาก ตัวอย่างเช่น ให้นํ้าตามกําทีดในขณะที่ตั้งไว้ หรือให้นํ้าเมื่อความชื้นของดินในเขตรากน้อยลงถึงระดับหนึ่งฯลฯ
11. ไม่มีปัญหาเรื่องอัตราการซึมของนํ้าเข้าไปในดิน เพราะเหตุว่าอัตราการให้นํ้าจะไม่มากพอที่จะทําให้ดินเปียกชุ่มเป็นบริเวณกว้างอยู่แล้ว
12. เนื่องจากจำนวนนํ้าที่ให้และก็ที่สูญเสียไปโดยการระเหยน้อย ฉะนั้นการสะสมของเกลือที่ติดมากับนํ้าในเขตรากพืชจึงไม่มาก

 

f:id:Selamudder80:20200609115357j:plain

เทปน้ำหยด

จุดด้วยของระบบการให้นํ้าแบบนํ้าหยด
1. มีปัญหาหัวข้อการอุดตันที่ศีรษะจ่ายนํ้ามากมายเนื่องจากตะกอนทรายตะไคร่นํ้า หรือเนื่องจากการสะสมตัวของสารเคมีในนํ้า
2. เนื่องด้วยรอบๆที่ชื้นแฉะไม่กว้างขวางนัก ความเข้มข้นของเกลือซึ่งมักจะเกิดขึ้นในรอบๆนอกของส่วนที่ชื้นแฉะจึงชอบสูงแล้วก็บางทีอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อพืชได้
3. สามารถให้ปุ๋ยแล้วก็สารเคมีอื่นๆแก่พืชพร้อมๆกับการให้นํ้าได้ด้วย โดยการผสมปุ๋ยหรือเคมีเข้ากับนํ้าทางท่อดูดของเครื่องสูบนํ้าเข้าไปในระบบ
4. ค่าลงทุนคราวแรกค่อนข้างจะสูงเนื่องจากควรจะมีเครื่องไม้เครื่องมือหลายสิ่งหลายอย่าง

 

การบริหารระบบน้ำหยดให้ได้ผลสูงสุด มี 3 ประการ เป็น
1. การให้น้ำปริมาณที่เหมาะสม กับความจำเป็นของพืชแต่ละจำพวก
2. การให้ปุ๋ยจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งจะละลายผ่านเข้าระบบ
3. การวางเป้าหมายการบำรุงรักษาระบบ เพื่อได้ประโยชน์ช้านานที่สุด

 


การให้น้ำหยดโดยไม่ใช้ปั๊มน้ำ

 

การที่จะพินิจพิเคราะห์ที่จะนําระบบการให้นํ้าหยดมาใช้ ควรมีการพินิจพิเคราะห์ ดังนี้
1. เมื่อมีการให้นํ้าแล้ว ปริมาณและก็ประสิทธิภาพของผลผลิตจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใดคุ้มหรือเปล่า
2. ราคาของผลิตผลนั้นคุ้มค่ากับค้าใช้จ่ายที่เสียไปหรือเปล่ากับการที่จะลงทุนติดตั้งระบบการให้นํ้าพืช
3. จำเป็นต้องมั่นใจแล้วว่า แหล่งนํ้าที่มีอยู่นั้นมีพอเพียงกับการให้นํ้าตลอดฤดูเพาะปลูกค้าใช้จ่ายการติดตั้งระบบการให้นํ้าหยด โดยส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายราว 10,000 ถึง 15,000 บาท/ไร่ เป็นราคาเครื่องมือรวมทั้งค่าติดตั้งทั้งปวง

 

การเลือกใช้เทปน้ำหยดมีสาเหตุที่ควรจะคำนึงถึงสำคัญๆเป็น
1. พืชที่ปลูก
2.ประเภทของดิน
3.ลักษณะพื้นที่(สูงต่ำ)
4. ความสม่ำเสมอ

 


วิธี วางระบบน้ำหยด แบบประหยัด ไม่ต้องมี 3 ทาง และ ต่อตรง

วิธีทำน้ำหมักชีวภาพ ผลิออกเร็ว ต่อต้านโรค เพิ่มผลิตผล ประโยชน์ที่ได้รับมาจากน้ำหมักชีวภาพ

f:id:Selamudder80:20200411105438j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

นํ้าหมักชีวภาพ หมายถึงน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการหมักเศษซากพืช ซากสัตว์ หรือสารอินทรีย์ประเภทต่างๆที่หาได้ในแคว้นด้วยจุลินทรีย์เจาะจง ซึ่งอาจหมักร่วมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง

น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ ปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ ตามแต่จะเรียก เป็นสารละลายเข้มข้นที่ได้จากการดองเศษพืช หรือสัตว์ กับสารที่ให้ความหวาน กระทั่งถูกสลายตัวโดยจุลินทรีย์ ซึ่งเมื่อผ่านแนวทางการแล้วจะได้สารละลายเข้มข้นสีน้ำตาล ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ และก็สารอินทรีย์หลายประเภท

เดิมทีนั้นเป้าหมายของการคิดค้น "น้ำหมักชีวภาพ" ขึ้นมา เพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตรโดยเฉพาะ แม้กระนั้นตอนหลังก็มีการนำน้ำหมักชีวภาพ มาดัดแปลงประโยชน์ในด้านอื่นเหมือนกัน

f:id:Selamudder80:20200411104040j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

วิธีการหมักของน้ำหมักชีวภาพ จะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการสลายตัวสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ โดยใช้กากน้ำตาล แล้วก็น้ำตาลจากสารอินทรีย์เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งเป็น 2 แบบ คือ

1. การหมักดองแบบอยากได้ออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่อยากได้ออกซิเจนสำหรับแนวทางการย่อยสลายสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน และก็ของกินให้แก่เซลล์ การดองประเภทนี้จะกำเนิดน้อยในกระบวนการหมักน้ำหมักชีวภาพ และก็มักกำเนิดในช่วงแรกของการดอง แม้กระนั้นเมื่อออกซิเจนในน้ำ แล้วก็อากาศหมด จุลินทรีย์แบบใช้ออกซิเจนจะลดลง รวมทั้งหมดไปจนถึงเหลือเฉพาะการดองจากจุลินทรีย์แบบไม่ใช้ออกซิเจน

2. การหมักดองแบบไม่อยากออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่ไม่อยากออกซิเจนสำหรับขั้นตอนเสื่อมสภาพสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน รวมทั้งอาหารให้แก่เซลล์ การหมักดองประเภทนี้จะกำเนิดเป็นส่วนมากในกรรมวิธีการหมักน้ำหมักชีวภาพ สินค้าที่ได้คือ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ส่วนพวกเมอเคปเทนและก็ก๊าสซัลไฟด์ปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย


การผลิตน้ำหมักชีวภาพ

วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ
วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพจะเลือกใช้อุปกรณ์ใดสำหรับในการหมักนั้น ควรจะเลือกใช้อุปกรณ์หมักซึ่งสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน แปลงเกษตรของตัวเองหรือหาได้ง่ายในแคว้น ส่วนหัวเชื้อสามารถเลือกใช้สารเร่งพด.2 หรือ พด.6 ตามจุดมุ่งหมายสำหรับเพื่อการใช้ประโยชน์เป็นหลัก

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 1
หมักจากผักรวมทั้งผลไม้ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 7 วัน)
– ผัก หรือผลไม้ 4 ส่วน เป็นต้นว่า 40 กิโล
– กากน้ำตาล 1 ส่วน อาทิเช่น 10 ลิตร
– น้ำ 1 ส่วน เช่น 10 ลิตร
– สารเร่ง พด.2 ปริมาณ 1 ซอง (25 กรัม) ใช้หมักได้ 50 ลิตร

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 2
หมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 21 วัน)
– ปลา 3 ส่วน
– กากน้ำตาล 1 ส่วน
– ผลไม้ 1 ส่วน
– น้ำ 1 ส่วน
– สารเร่ง พด.6 หรือ พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม)

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร น้ำหมักผลไม้
ส่วนประกอบ
ฟักทอง 1 ผล (3-4 กก.)
กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี
สัปปะรด 1 ลูก
มะละกอสุก 1 ลูก
กากน้ำตาล 1 ลิตร
น้ำกิน 20-30 ลิตร
ถังหมักขนาด 50 ลิตร


วิธีทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ​ | ทำปุ๋ยใช้เองง่ายๆ​ | พืชผัก​ ผลไม้งาม​ หวานกรอบ

วิธีการทำน้ำหมักผลไม้
1.สับผลไม้แต่ละจำพวกตามภาพ โดยไม่ต้องสับละเอียดมาก เพราะเหตุว่าจะมีผลให้เวลากรองเอากากออกทำเป็นยาก

2.เอาผลไม้ที่สับเสร็จแล้วลงในถังหมักที่ได้จัดเตรียมไว้
3.เพิ่มเติมกากน้ำตาลแล้วก็เพิ่มน้ำดื่มตามลงไป จากนั้นกวนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เข้ากันเพื่อกากน้ำตาลละลายปิดฝาถัง
4.หมักในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ให้มีการเปิดกวนอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
5.หมักจนกระทั่งครบ 2 อาทิตย์แล้วกรองเอากากออกด้วยที่กรอง กรอกน้ำหมักผลไม้ที่ได้ใส่ขวดหรือแกนลอนปิดฝาให้มิดชิด จากนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้เลย หากขวดหรือแกนลอนมีก๊าซ ให้หมั่นระบายแก๊สออกเดือนละ 1-2 ครั้ง
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการหมัก
การดองควรจะใช้ถังแบบมีฝาปิดสนิท เพราะเหตุว่าอาจมีเแมลงวันลงไปไข่ใส่จนทำให้มีหนอนได้ ส่วนการปรับปรุงสำหรับผมเป็น หาเทปใสพันฝาถังรอบๆ

f:id:Selamudder80:20200411103836j:plain

f:id:Selamudder80:20200411103843j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

การใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบในตัวหมักจะก่อให้ได้น้ำหมักที่มีสีน้ำตาลเข้ม แม้กระนั้นแม้หมักด้วยอินทรีย์วัตถุเพียงอย่างเดียวจะได้น้ำหมักเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือตามสีของวัตถุที่เพิ่มเติมลงหมัก


ประเภทของน้ำหมักชีวภาพ
น้ำหมักชีวภาพแบ่งตามชนิดวัตถุดิบที่ใช้หมัก 3 ประเภท เป็น
1. น้ำหมักชีวภาพจากพืช แบ่งเป็น 2 ชนิด เป็น
– ประเภทที่ใช้ผัก แล้วก็เศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรข้างหลังการเก็บ รวมทั้งคัดแยกผลผลิต น้ำหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค แล้วก็ฮอร์โมนโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี
– ชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครอบครัว อาทิเช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าประเภทแรก และก็มีกลิ่นหอมสดชื่นน้อยกว่า ครั้งคราวอาจมีกลิ่นเหม็นบ้างบางส่วน จำต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม
2. น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์ เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆดังเช่นว่า เนื้อปลา เนื้อหอย ฯลฯ น้ำหมักที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากยิ่งกว่าน้ำหมักที่ได้จากวัตถุหมักอื่น จะต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม

3. น้ำหมักชีวภาพผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จาการหมักพืช และก็เนื้อสัตว์รวมกัน โดยมากมักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครัวเรือนเป็นหลัก


วิธีทำน้ำหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพจากผักผลไม้เศษๆที่เหลือจากครัว โดยไม่ใช้หัวเชื้อ หมักแบบเริ่มต้น


ลักษณะน้ำหมักชีวภาพที่หมักสมบูรณ์
1. น้ำหมักชีวภาพมีลักษณะสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้มใส ไม่ขุ่นดำ น้ำหมักจะอยู่ส่วนบน ส่วนกากจะตกลงด้านล่าง

2. น้ำหมักชีวภาพไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แต่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นเสมือนเหล้าหมักหรือมีกลิ่นของกากน้ำตาล
แล้วก็กลิ่นเหม็นเปรี้ยว
3. น้ำหมักชีวภาพต้องมีฟองก๊าสไหมมีฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถ้าหากเกิดการหมักอุปกรณ์จนกระทั่งหมดแล้ว
4. น้ำหมักชีวภาพจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ราว 3-4


Easy home l แชร์เก็บไว้เลย สอนทำ น้ําหมักชีวภาพ สับปะรด เปลือกสับปะรดอย่าทิ้งมาทำน้ำหมักที่ดี


ทำน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหาร

คุณสมบัติของน้ำหมักชีวภาพ
1. ประกอบด้วยฮอร์โมนที่นำมาใช้ต่อการเติบโตของพืชหลายอย่าง อาทิเช่น ออกซิน ไซโตตไคนิน แล้วก็จิบเบอร์เรลลิน
2. กรดอินทรีย์จำพวกต่างๆยกตัวอย่างเช่น กรดอะซีตำหนิก กรดแลคติก กรดอะมิโน แล้วก็กรดฮิวไม่ก
3. มีวิตามินบี วิตามินซี วิตามินเอ รวมทั้งอื่นๆขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์หมัก
4. มีความเป็นกรดที่ pH ราวๆ 3-4

f:id:Selamudder80:20200411104037j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากน้ำหมักชีวภาพ
1. ด้านการกสิกรรม
ด้านการเกษตร น้ำหมักชีวภาพ มีธาตุอาหารสำคัญ อีกทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม กำมะถัน อื่นๆอีกมากมาย จึงสามารถนำไปเป็นปุ๋ย เร่งอัตราการเติบโตของพืช เพิ่มคุณภาพของผลิตผลให้ดีขึ้น และก็ยังสามารถใช้ไล่แมลงศัตรูพืชได้ด้วย
– ใช้ฉีดพ่นหรือเพิ่มเติมในดินหรือน้ำ ช่วยปรับให้สภาพความเป็นกรด-ด่าง ในดิน แล้วก็น้ำ
– ใช้เติมในดิน ช่วยทำให้ภาวะองค์ประกอบของดิน ทำให้ดินซึ่งร่วนซุย ซับน้ำได้ดี และช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน และก็น้ำ
– ช่วยเพิ่มอัตราการเสื่อมสลายสารอินทรีย์ในดิน แล้วก็น้ำ
– ใช้รดต้นพืชหรือแช่เมล็ดพันธุ์ ท่อนพันธุ์เพื่อเร่งการเกิดราก และก็การเติบโตของพืช
– เป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่ราวกับฮอร์โมนพืช กระตุ้นการเกิดราก และการเจริญเติบโต ทำให้ผลิตผล รวมทั้งประสิทธิภาพสูงมากขึ้น
– ใช้ เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นในแปลงเกษตร ช่วยต้านแมลงศัตรูพืช และก็ลดจำนวนแมลงศัตรูพืช
– ใช้ฉีดพ่นในแปลงผัก ผลไม้ หรือผลผลิตต่างๆเพื่อคุ้มครองป้องกันการทำลายผลผลิตของแมลง

www.vigotech.in.th

2. ด้านปศุสัตว์
ด้านปศุสัตว์ สามารถช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น น้ำเสียจากฟาร์มสัตว์ได้ ช่วยคุ้มครองโรคระบาดต่างๆในสัตว์แทนการ ใช้ยาปฏิชีวนะ ทำให้สัตว์แข็งแรง มีความต้านทานโรค ช่วยกำจัดแมลงวัน ฯลฯ
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นดินในฟาร์มเพื่อลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ ซากพืช ซากสัตว์ในฟาร์ม
– ใช้เติมในน้ำเสียเพื่อกำจัดน้ำเสียด้วยการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในการย่อยสารอินทรีย์ในน้ำเสีย
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นหรือตัวสัตว์เพื่อป้องกัน และลดปริมาณของจุลินทรีย์ก่อโทษ และเชื้อโรคต่างๆ
– ช่วยป้องกันแมลงวัน แล้วก็การเจริญเติบโตของหนอนแมลงต่างๆ
– ใช้ผสมอาหารสัตว์พวกหญ้าเพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในกระเพาะสัตว์บดเอื้อง
– ใช้หมักต้นหญ้า ฟางข้าวหรือหญ้าอาหารสัตว์เพื่อเกิดการย่อยง่าย

3. ด้านการประมง
ด้านการประมง ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วยแก้ไขปัญหาโรคพยาธิในน้ำ ช่วยรักษาโรคแผลต่างๆในปลา กบ จระเข้ได้ ช่วยลดปริมาณขี้เลนในบ่อ ช่วยให้เลนไม่เน่า ใช้ในด้านการประมงมักใช้น้ำหมักชีวภาพเพิ่มเติมในบ่อเลี้ยงปลาเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆเป็น
– เพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง
– เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สำหรับในการเสื่อมสภาพสิ่งสกปรกในบ่อปลา
– เพื่อต้านทาน รวมทั้งลดปริมาณเชื้อโรคที่ก่อโทษในสัตว์น้ำ
– เพื่อรักษาแผลของสัตว์น้ำ
– ช่วยลดจำนวนขี้เลนในบ่อ ด้วยการช่วยย่อยสลายสิ่งบูดเน่าข้างล่างบ่อ

4. ด้านสภาพแวดล้อม
ด้านสภาพแวดล้อม น้ำหมักชีวภาพ สามารถช่วยบำบัดน้ำเสียจากการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชน และก็สถานประกอบการทั่วไป แถมยังช่วยดับกลิ่นเหม็นจากกองขยะ การเลี้ยงสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรม แล้วก็ชุมชนต่างๆนอกนั้นยังช่วยทำให้สภาพภูมิอากาศที่เสียให้มีชีวิตชีวา แล้วก็มีภาวะดีขึ้น
– ใช้เติมในระบบบำบัดน้ำเสียจากการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งชุมชน
– ใช้เติมในบ่อขยะ ช่วยสำหรับการย่อยสลายขยะ และก็ดับกลิ่นเหม็น
– ใช้ปรับสภาพของเสียจากครอบครัวก้่อนนำไปใช้ผลดีสำหรับในการเกษตร

5.ผลดีในครอบครัว พวกเราสามารถนำน้ำหมักชีวภาพ มาใช้เพื่อการชะล้างชำระล้างแทน สบู่ ผงซักฟอก แชมพู น้ำยาที่เอาไว้ล้างจาน รวมถึงใช้ขจัดกลิ่นในส้วม โถส้วม ท่อระบายน้ำ ฯลฯ ได้ด้วย

f:id:Selamudder80:20200411104700j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

แนวทางการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อการซักล้าง
น้ำหมักชีวภาพ สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการซักล้างได้ โดยมีสูตรให้นำผลไม้ เปลือกผลไม้ (ฝักส้มป่อย , มะคำดีควาย , มะนาว อื่นๆอีกมากมาย) 3 ส่วน น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลอ้อย 1 ส่วน แล้วก็น้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง แล้วหมั่นเปิดฝาคลายแก๊สออก โดยจำเป็นต้องวางไว้ภายในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงอาทิตย์ หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพ สำหรับซักผ้า หรือล้างจานได้ ซึ่งสูตรนี้หากว่าผ้าจะมีราขึ้น ถ้าหากนำผ้าไปแช่ทิ้งเอาไว้ภายในน้ำหมักชีวภาพก็จะสามารถซักออกได้


ปุ๋ยน้ำหมักเศษผักผลไม้ ทำง่ายไม่เปลืองตัง (น้ำหมักชีวภาพ)


กระบวนการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อขจัดกลิ่น
สูตรหนึ่งของแนวทางการทำน้ำหมักชีวภาพมาดับกลิ่นเป็นใช้เศษอาหาร พืชผัก ผลไม้ที่เหลือทิ้ง 3 ส่วน กากน้ำตาลหรือโมลาส 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพใช้ขจัดกลิ่นในห้องอาบน้ำ โถส้วม ท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำ กลิ่นปัสสาวะหมา ฯลฯ ได้อย่างดี

 

ข้อควรคำนึงในการใช้ น้ำหมักชีวภาพ
1. แม้ใช้น้ำหมักชีวภาพกับพืช จำต้องใช้ปริมาณเจือจาง เพราะแม้ความเข้มข้นสูงเหลือเกิน อาจจะเป็นผลให้พืชหยุดชะงักการเจริญเติบโต และตายได้
2. ระหว่างหมัก จะเกิดก๊าซต่างๆในภาชนะ ด้วยเหตุนั้นจำเป็นต้องหมั่นเปิดฝาออก เพื่อระบายก๊าซ แล้วปิดฝากลับให้สนิทในทันที
3. แม้ใช้น้ำก๊อกสำหรับการหมัก จำต้องต้มให้สุก เพื่อไล่คลอรีนออกไปก่อน เนื่องจากคลอรีนบางทีอาจมีอันตรายต่อจุลินทรีย์ที่ใช้สำหรับการหมัก
4. พืชบางประเภท ตัวอย่างเช่น เปลือกส้ม ไม่เหมาะสำหรับในการทำน้ำหมักชีวภาพ เนื่องจากน้ำมันที่ฉาบผิวเปลือกส้มเป็นพิษต่อจุลินทรีย์


น้ำหมักเศษผักบำรุงพืช ผัก ผลไม้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว

เพื่อให้มีความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารรวมทั้งยา รวมถึงจำเป็นต้องพิจารณาความน่าไว้วางใจของผู้ผลิต แหล่งผลิต แล้วก็บรรจุภัณฑ์พัสดุภัณฑ์ด้วย แต่ว่าถ้าหากว่าจะนำ "น้ำหมักชีวภาพ" ฉีดพ่นยาด้วย เครื่องพ่นยา มาใช้ในครอบครัว หรือการเกษตร ลองทำง่ายๆด้วยตัวเอง ก็จะปลอดภัยและออมที่สุด

วิธีทำน้ำหมักชีวภาพ ผลิออกเร็ว ต่อต้านโรค เพิ่มผลิตผล ประโยชน์ที่ได้รับมาจากน้ำหมักชีวภาพ

f:id:Selamudder80:20200411103843j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

นํ้าหมักชีวภาพ หมายถึงน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการหมักเศษซากพืช ซากสัตว์ หรือสารอินทรีย์ประเภทต่างๆที่หาได้ในแคว้นด้วยจุลินทรีย์เจาะจง ซึ่งอาจหมักร่วมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง

น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ ปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ ตามแต่จะเรียก เป็นสารละลายเข้มข้นที่ได้จากการดองเศษพืช หรือสัตว์ กับสารที่ให้ความหวาน กระทั่งถูกสลายตัวโดยจุลินทรีย์ ซึ่งเมื่อผ่านแนวทางการแล้วจะได้สารละลายเข้มข้นสีน้ำตาล ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ และก็สารอินทรีย์หลายประเภท

เดิมทีนั้นเป้าหมายของการคิดค้น "น้ำหมักชีวภาพ" ขึ้นมา เพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตรโดยเฉพาะ แม้กระนั้นตอนหลังก็มีการนำน้ำหมักชีวภาพ มาดัดแปลงประโยชน์ในด้านอื่นเหมือนกัน

f:id:Selamudder80:20200411104040j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

วิธีการหมักของน้ำหมักชีวภาพ จะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการสลายตัวสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ โดยใช้กากน้ำตาล แล้วก็น้ำตาลจากสารอินทรีย์เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งเป็น 2 แบบ คือ

1. การหมักดองแบบอยากได้ออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่อยากได้ออกซิเจนสำหรับแนวทางการย่อยสลายสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน และก็ของกินให้แก่เซลล์ การดองประเภทนี้จะกำเนิดน้อยในกระบวนการหมักน้ำหมักชีวภาพ และก็มักกำเนิดในช่วงแรกของการดอง แม้กระนั้นเมื่อออกซิเจนในน้ำ แล้วก็อากาศหมด จุลินทรีย์แบบใช้ออกซิเจนจะลดลง รวมทั้งหมดไปจนถึงเหลือเฉพาะการดองจากจุลินทรีย์แบบไม่ใช้ออกซิเจน

2. การหมักดองแบบไม่อยากออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่ไม่อยากออกซิเจนสำหรับขั้นตอนเสื่อมสภาพสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน รวมทั้งอาหารให้แก่เซลล์ การหมักดองประเภทนี้จะกำเนิดเป็นส่วนมากในกรรมวิธีการหมักน้ำหมักชีวภาพ สินค้าที่ได้คือ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ส่วนพวกเมอเคปเทนและก็ก๊าสซัลไฟด์ปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย


การผลิตน้ำหมักชีวภาพ

วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ
วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพจะเลือกใช้อุปกรณ์ใดสำหรับในการหมักนั้น ควรจะเลือกใช้อุปกรณ์หมักซึ่งสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน แปลงเกษตรของตัวเองหรือหาได้ง่ายในแคว้น ส่วนหัวเชื้อสามารถเลือกใช้สารเร่งพด.2 หรือ พด.6 ตามจุดมุ่งหมายสำหรับเพื่อการใช้ประโยชน์เป็นหลัก

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 1
หมักจากผักรวมทั้งผลไม้ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 7 วัน)
– ผัก หรือผลไม้ 4 ส่วน เป็นต้นว่า 40 กิโล
– กากน้ำตาล 1 ส่วน อาทิเช่น 10 ลิตร
– น้ำ 1 ส่วน เช่น 10 ลิตร
– สารเร่ง พด.2 ปริมาณ 1 ซอง (25 กรัม) ใช้หมักได้ 50 ลิตร

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 2
หมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 21 วัน)
– ปลา 3 ส่วน
– กากน้ำตาล 1 ส่วน
– ผลไม้ 1 ส่วน
– น้ำ 1 ส่วน
– สารเร่ง พด.6 หรือ พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม)

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร น้ำหมักผลไม้
ส่วนประกอบ
ฟักทอง 1 ผล (3-4 กก.)
กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี
สัปปะรด 1 ลูก
มะละกอสุก 1 ลูก
กากน้ำตาล 1 ลิตร
น้ำกิน 20-30 ลิตร
ถังหมักขนาด 50 ลิตร


วิธีทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ​ | ทำปุ๋ยใช้เองง่ายๆ​ | พืชผัก​ ผลไม้งาม​ หวานกรอบ

วิธีการทำน้ำหมักผลไม้
1.สับผลไม้แต่ละจำพวกตามภาพ โดยไม่ต้องสับละเอียดมาก เพราะเหตุว่าจะมีผลให้เวลากรองเอากากออกทำเป็นยาก

2.เอาผลไม้ที่สับเสร็จแล้วลงในถังหมักที่ได้จัดเตรียมไว้
3.เพิ่มเติมกากน้ำตาลแล้วก็เพิ่มน้ำดื่มตามลงไป จากนั้นกวนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เข้ากันเพื่อกากน้ำตาลละลายปิดฝาถัง
4.หมักในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ให้มีการเปิดกวนอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
5.หมักจนกระทั่งครบ 2 อาทิตย์แล้วกรองเอากากออกด้วยที่กรอง กรอกน้ำหมักผลไม้ที่ได้ใส่ขวดหรือแกนลอนปิดฝาให้มิดชิด จากนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้เลย หากขวดหรือแกนลอนมีก๊าซ ให้หมั่นระบายแก๊สออกเดือนละ 1-2 ครั้ง
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการหมัก
การดองควรจะใช้ถังแบบมีฝาปิดสนิท เพราะเหตุว่าอาจมีเแมลงวันลงไปไข่ใส่จนทำให้มีหนอนได้ ส่วนการปรับปรุงสำหรับผมเป็น หาเทปใสพันฝาถังรอบๆ

f:id:Selamudder80:20200411103836j:plain

f:id:Selamudder80:20200411103843j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

การใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบในตัวหมักจะก่อให้ได้น้ำหมักที่มีสีน้ำตาลเข้ม แม้กระนั้นแม้หมักด้วยอินทรีย์วัตถุเพียงอย่างเดียวจะได้น้ำหมักเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือตามสีของวัตถุที่เพิ่มเติมลงหมัก


ประเภทของน้ำหมักชีวภาพ
น้ำหมักชีวภาพแบ่งตามชนิดวัตถุดิบที่ใช้หมัก 3 ประเภท เป็น
1. น้ำหมักชีวภาพจากพืช แบ่งเป็น 2 ชนิด เป็น
– ประเภทที่ใช้ผัก แล้วก็เศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรข้างหลังการเก็บ รวมทั้งคัดแยกผลผลิต น้ำหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค แล้วก็ฮอร์โมนโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี
– ชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครอบครัว อาทิเช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าประเภทแรก และก็มีกลิ่นหอมสดชื่นน้อยกว่า ครั้งคราวอาจมีกลิ่นเหม็นบ้างบางส่วน จำต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม
2. น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์ เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆดังเช่นว่า เนื้อปลา เนื้อหอย ฯลฯ น้ำหมักที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากยิ่งกว่าน้ำหมักที่ได้จากวัตถุหมักอื่น จะต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม

3. น้ำหมักชีวภาพผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จาการหมักพืช และก็เนื้อสัตว์รวมกัน โดยมากมักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครัวเรือนเป็นหลัก


วิธีทำน้ำหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพจากผักผลไม้เศษๆที่เหลือจากครัว โดยไม่ใช้หัวเชื้อ หมักแบบเริ่มต้น


ลักษณะน้ำหมักชีวภาพที่หมักสมบูรณ์
1. น้ำหมักชีวภาพมีลักษณะสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้มใส ไม่ขุ่นดำ น้ำหมักจะอยู่ส่วนบน ส่วนกากจะตกลงด้านล่าง

2. น้ำหมักชีวภาพไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แต่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นเสมือนเหล้าหมักหรือมีกลิ่นของกากน้ำตาล
แล้วก็กลิ่นเหม็นเปรี้ยว
3. น้ำหมักชีวภาพต้องมีฟองก๊าสไหมมีฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถ้าหากเกิดการหมักอุปกรณ์จนกระทั่งหมดแล้ว
4. น้ำหมักชีวภาพจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ราว 3-4


Easy home l แชร์เก็บไว้เลย สอนทำ น้ําหมักชีวภาพ สับปะรด เปลือกสับปะรดอย่าทิ้งมาทำน้ำหมักที่ดี


ทำน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหาร

คุณสมบัติของน้ำหมักชีวภาพ
1. ประกอบด้วยฮอร์โมนที่นำมาใช้ต่อการเติบโตของพืชหลายอย่าง อาทิเช่น ออกซิน ไซโตตไคนิน แล้วก็จิบเบอร์เรลลิน
2. กรดอินทรีย์จำพวกต่างๆยกตัวอย่างเช่น กรดอะซีตำหนิก กรดแลคติก กรดอะมิโน แล้วก็กรดฮิวไม่ก
3. มีวิตามินบี วิตามินซี วิตามินเอ รวมทั้งอื่นๆขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์หมัก
4. มีความเป็นกรดที่ pH ราวๆ 3-4

f:id:Selamudder80:20200411104037j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากน้ำหมักชีวภาพ
1. ด้านการกสิกรรม
ด้านการเกษตร น้ำหมักชีวภาพ มีธาตุอาหารสำคัญ อีกทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม กำมะถัน อื่นๆอีกมากมาย จึงสามารถนำไปเป็นปุ๋ย เร่งอัตราการเติบโตของพืช เพิ่มคุณภาพของผลิตผลให้ดีขึ้น และก็ยังสามารถใช้ไล่แมลงศัตรูพืชได้ด้วย
– ใช้ฉีดพ่นหรือเพิ่มเติมในดินหรือน้ำ ช่วยปรับให้สภาพความเป็นกรด-ด่าง ในดิน แล้วก็น้ำ
– ใช้เติมในดิน ช่วยทำให้ภาวะองค์ประกอบของดิน ทำให้ดินซึ่งร่วนซุย ซับน้ำได้ดี และช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน และก็น้ำ
– ช่วยเพิ่มอัตราการเสื่อมสลายสารอินทรีย์ในดิน แล้วก็น้ำ
– ใช้รดต้นพืชหรือแช่เมล็ดพันธุ์ ท่อนพันธุ์เพื่อเร่งการเกิดราก และก็การเติบโตของพืช
– เป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่ราวกับฮอร์โมนพืช กระตุ้นการเกิดราก และการเจริญเติบโต ทำให้ผลิตผล รวมทั้งประสิทธิภาพสูงมากขึ้น
– ใช้ เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นในแปลงเกษตร ช่วยต้านแมลงศัตรูพืช และก็ลดจำนวนแมลงศัตรูพืช
– ใช้ฉีดพ่นในแปลงผัก ผลไม้ หรือผลผลิตต่างๆเพื่อคุ้มครองป้องกันการทำลายผลผลิตของแมลง

www.vigotech.in.th

2. ด้านปศุสัตว์
ด้านปศุสัตว์ สามารถช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น น้ำเสียจากฟาร์มสัตว์ได้ ช่วยคุ้มครองโรคระบาดต่างๆในสัตว์แทนการ ใช้ยาปฏิชีวนะ ทำให้สัตว์แข็งแรง มีความต้านทานโรค ช่วยกำจัดแมลงวัน ฯลฯ
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นดินในฟาร์มเพื่อลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ ซากพืช ซากสัตว์ในฟาร์ม
– ใช้เติมในน้ำเสียเพื่อกำจัดน้ำเสียด้วยการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในการย่อยสารอินทรีย์ในน้ำเสีย
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นหรือตัวสัตว์เพื่อป้องกัน และลดปริมาณของจุลินทรีย์ก่อโทษ และเชื้อโรคต่างๆ
– ช่วยป้องกันแมลงวัน แล้วก็การเจริญเติบโตของหนอนแมลงต่างๆ
– ใช้ผสมอาหารสัตว์พวกหญ้าเพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในกระเพาะสัตว์บดเอื้อง
– ใช้หมักต้นหญ้า ฟางข้าวหรือหญ้าอาหารสัตว์เพื่อเกิดการย่อยง่าย

3. ด้านการประมง
ด้านการประมง ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วยแก้ไขปัญหาโรคพยาธิในน้ำ ช่วยรักษาโรคแผลต่างๆในปลา กบ จระเข้ได้ ช่วยลดปริมาณขี้เลนในบ่อ ช่วยให้เลนไม่เน่า ใช้ในด้านการประมงมักใช้น้ำหมักชีวภาพเพิ่มเติมในบ่อเลี้ยงปลาเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆเป็น
– เพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง
– เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สำหรับในการเสื่อมสภาพสิ่งสกปรกในบ่อปลา
– เพื่อต้านทาน รวมทั้งลดปริมาณเชื้อโรคที่ก่อโทษในสัตว์น้ำ
– เพื่อรักษาแผลของสัตว์น้ำ
– ช่วยลดจำนวนขี้เลนในบ่อ ด้วยการช่วยย่อยสลายสิ่งบูดเน่าข้างล่างบ่อ

4. ด้านสภาพแวดล้อม
ด้านสภาพแวดล้อม น้ำหมักชีวภาพ สามารถช่วยบำบัดน้ำเสียจากการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชน และก็สถานประกอบการทั่วไป แถมยังช่วยดับกลิ่นเหม็นจากกองขยะ การเลี้ยงสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรม แล้วก็ชุมชนต่างๆนอกนั้นยังช่วยทำให้สภาพภูมิอากาศที่เสียให้มีชีวิตชีวา แล้วก็มีภาวะดีขึ้น
– ใช้เติมในระบบบำบัดน้ำเสียจากการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งชุมชน
– ใช้เติมในบ่อขยะ ช่วยสำหรับการย่อยสลายขยะ และก็ดับกลิ่นเหม็น
– ใช้ปรับสภาพของเสียจากครอบครัวก้่อนนำไปใช้ผลดีสำหรับในการเกษตร

5.ผลดีในครอบครัว พวกเราสามารถนำน้ำหมักชีวภาพ มาใช้เพื่อการชะล้างชำระล้างแทน สบู่ ผงซักฟอก แชมพู น้ำยาที่เอาไว้ล้างจาน รวมถึงใช้ขจัดกลิ่นในส้วม โถส้วม ท่อระบายน้ำ ฯลฯ ได้ด้วย

f:id:Selamudder80:20200411104700j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

แนวทางการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อการซักล้าง
น้ำหมักชีวภาพ สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการซักล้างได้ โดยมีสูตรให้นำผลไม้ เปลือกผลไม้ (ฝักส้มป่อย , มะคำดีควาย , มะนาว อื่นๆอีกมากมาย) 3 ส่วน น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลอ้อย 1 ส่วน แล้วก็น้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง แล้วหมั่นเปิดฝาคลายแก๊สออก โดยจำเป็นต้องวางไว้ภายในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงอาทิตย์ หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพ สำหรับซักผ้า หรือล้างจานได้ ซึ่งสูตรนี้หากว่าผ้าจะมีราขึ้น ถ้าหากนำผ้าไปแช่ทิ้งเอาไว้ภายในน้ำหมักชีวภาพก็จะสามารถซักออกได้


ปุ๋ยน้ำหมักเศษผักผลไม้ ทำง่ายไม่เปลืองตัง (น้ำหมักชีวภาพ)


กระบวนการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อขจัดกลิ่น
สูตรหนึ่งของแนวทางการทำน้ำหมักชีวภาพมาดับกลิ่นเป็นใช้เศษอาหาร พืชผัก ผลไม้ที่เหลือทิ้ง 3 ส่วน กากน้ำตาลหรือโมลาส 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพใช้ขจัดกลิ่นในห้องอาบน้ำ โถส้วม ท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำ กลิ่นปัสสาวะหมา ฯลฯ ได้อย่างดี

 

ข้อควรคำนึงในการใช้ น้ำหมักชีวภาพ
1. แม้ใช้น้ำหมักชีวภาพกับพืช จำต้องใช้ปริมาณเจือจาง เพราะแม้ความเข้มข้นสูงเหลือเกิน อาจจะเป็นผลให้พืชหยุดชะงักการเจริญเติบโต และตายได้
2. ระหว่างหมัก จะเกิดก๊าซต่างๆในภาชนะ ด้วยเหตุนั้นจำเป็นต้องหมั่นเปิดฝาออก เพื่อระบายก๊าซ แล้วปิดฝากลับให้สนิทในทันที
3. แม้ใช้น้ำก๊อกสำหรับการหมัก จำต้องต้มให้สุก เพื่อไล่คลอรีนออกไปก่อน เนื่องจากคลอรีนบางทีอาจมีอันตรายต่อจุลินทรีย์ที่ใช้สำหรับการหมัก
4. พืชบางประเภท ตัวอย่างเช่น เปลือกส้ม ไม่เหมาะสำหรับในการทำน้ำหมักชีวภาพ เนื่องจากน้ำมันที่ฉาบผิวเปลือกส้มเป็นพิษต่อจุลินทรีย์


น้ำหมักเศษผักบำรุงพืช ผัก ผลไม้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว

เพื่อให้มีความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารรวมทั้งยา รวมถึงจำเป็นต้องพิจารณาความน่าไว้วางใจของผู้ผลิต แหล่งผลิต แล้วก็บรรจุภัณฑ์พัสดุภัณฑ์ด้วย แต่ว่าถ้าหากว่าจะนำ "น้ำหมักชีวภาพ" ฉีดพ่นยาด้วย เครื่องพ่นยา มาใช้ในครอบครัว หรือการเกษตร ลองทำง่ายๆด้วยตัวเอง ก็จะปลอดภัยและออมที่สุด

11 การเลือกใช้ เครื่องมือการเกษตร ใช้ในการทำไร่ทำนา

f:id:Selamudder80:20190420170816j:plain

เครื่องมือการเกษตร

เครื่องมือการเกษตร เป็น วัสดุอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงสำหรับในการดำเนินการ เป็นวัสดุที่ให้ดำเนินการเกี่ยวกับพืชแล้วก็ดิน ใช้ในลัษณะของการดำเนินการด้านการเกษตรกรรม ควรที่จะเลือกให้เหมาะสมกับประเภทของงานที่ทำ ช่วยให้ทำสวนทำได้รวดเร็วทันใจแล้วก็ได้ผลดีเพิ่มขึ้น พวกเราควรจะรู้จักเครื่องมือการเกษตร แล้วก็ศึกษาการใช้เครื่องมือการเกษตรแต่ละชนิด เพื่อนำไปใช้งานให้เหมาะสมกับรูปแบบของงานที่ทำ ถ้าใช้เครื่องมือการเกษตรที่ไม่เหมาะกับกับงาน ก็อาจก่อให้ทรุดโทรมเสียหาย และก็บางทีอาจทำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่องานที่ทำด้วย

ตัวอย่างของเครื่องมือการเกษตร เช่น

  • ช้อนปลูก
  • ส้อมพรวน
  • เสียม
  • คราด
  • พลั่ว
  • ปุ้งกี๋
  • จอบ
  • บัวรดน้ำ
  • กรรไกรตัดต้นหญ้า
  • กรรไกรตัดกิ่ง
  • มีดถางหญ้า เป็นต้น

www.youtube.com

คำแนะนำก่อนการใช้และหลังจากที่ใช้งานเครื่องมือการเกษตร
ควรจะตรวจสภาพ เครื่องมือการเกษตร ก่อนใช้งานทุกหน หากอยู่ในภาวะชำรุดทรุดโทรมไม่พร้อมใช้งาน ควรปรับปรุงแก้ไขซ่อนแซมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยก่อนใช้ประโยชน์งาน แล้วก็หลังใช้เครื่องมือการเกษตร ควรทำความสะอาด แล้วก็จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสำหรับในการจับใช้งานในครั้งถัดไป

แนวทางบำรุงเครื่องมือการเกษตร
ไม่ทิ้งควรจะเครื่องมือให้ตากแดดตากฝน เนื่องจากจะก่อให้กำเนิดสนิมสึกกร่อนง่าย เมื่อใช้อุปกรณ์เสร็จแล้วควรล้างแล้วก็เช็ดถูให้แห้งซะก่อน

 

www.youtube.com


เครื่องมือการเกษตรที่ใช้เพื่อทำเกษตรมีหลากหลายประเภท เรามารู้จักอุปกรณ์ต่างๆกันเลยจ้ะ


ช้อนปลูก
ช้อนปลูก มีลักษณะแหลมและออกจะคม ใช้สำหรับขุดย้ายต้นกล้า ขุดหลุมปลูก หรือใช้ขุดแล้วก็ตักต้นกล้า เพื่อนำไปปลูกเอาไว้ภายในหลุมที่จัดเตรียมไว้การใช้ช้อนปลูกจะช่วยทำให้ต้นกล้าไม่ได้รับความกระทบกระเทือน ข้างหลังการใช้ควรล้างทำความสะอาด ขัดให้แห้ง ทาน้ำมันป้องกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่เข้าทางให้เป็นระเบียบ

f:id:Selamudder80:20190420165333j:plain

ช้อนปลูก ใช้สำหรับขุดย้ายต้นกล้า

ส้อมพรวนดิน
ส้อมพรวนดิน ใช้สำหรับลูกพรวนดิน เหมาะกับดินซึ่งร่วนซุย ใช้สำหรับพรวนดินรอบๆต้นพืช ไม่สมควรใช้พรวนในดินแข็ง ด้วยเหตุว่าจะหักรวมทั้งงอง่าย เมื่อใช้เสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาด ขัดให้แห้งแล้วทาด้วยน้ำมันป้องกันสนิม เก็บเข้าที่เข้าทางให้เป็นระเบียบ

f:id:Selamudder80:20190420165421j:plain

ส้อมพรวน ใช้สำหรับพรวนดินร่วนซุย

เสียม
เสียม ใช้สำหรับขุดหลุมตระเตรียมเพื่อปลูกต้นไม้ นิยมใช้ขุดหลุมขนาดเล็กและก็ลึก เหมาะสำหรับการขุดหลุมขนาดเล็ก ก่อนใช้ควรตรวจสภาพของเสียมเสียก่อน เมื่อใช้แล้วควรจะล้างชำระล้าง เช็ดถูให้แห้งแล้วทาด้วยน้ำมันเพื่อกันสนิม เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ

f:id:Selamudder80:20190420165508j:plain

เสียม ใช้สำหรับขุดหลุมเพื่อปลูกต้นไม้

คราด
คราด ใช้สำหรับย่อยดินและก็เก็บเศษต้นหญ้า แต่งแปลงปลูก แล้วก็ใช้เก็บเศษหญ้าบนหน้าดิน ก่อนใช้ควรจะตรวจตราว่าคราดอยู่ในสภาพที่ ใช้ได้หรือไม่ ขณะใช้ควรระมัดระวังไม่ให้ด้ามคราดไปถูกคนใกล้เคียง หลังจากที่มีการใช้แล้วล้างทำความสะอาดแล้วก็ใช้ผ้าขัดให้แห้ง ทาน้ำมันกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย

f:id:Selamudder80:20190420165548j:plain

คราด ใช้สำหรับย่อยดินและแต่งแปลงปลูก

พลั่ว
พลั่ว ใช้สำหรับตักอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อการเกษตร อย่างเช่น ดิน ปุ๋ย หรือขุดหลุมขนาดเล็กๆไม่ลึก เมื่อใช้แล้วควรจะล้างชำระล้าง ถูให้แห้งแล้วทาด้วยน้ำมันเพื่อกันสนิม เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ

f:id:Selamudder80:20190420165626j:plain

พลั่ว ใช้สำหรับตัก

บุ้งกี๋
ปุ้งกี๋ ใช้สำหรับย้ายดิน ปุ๋ย หรือเศษหญ้าเศษใบไม้

f:id:Selamudder80:20190420165657j:plain

ปุ้งกี๋ ใช้สำหรับขนย้ายดิน

จอบ
จอบ ใช้สำหรับขุดดิน ถากต้นหญ้าขุดแปลง หรือใช้สำหรับขุดหลุมใหญ่ๆก่อนใช้ควรตรวจตราว่าจอบเข้าด้ามแน่นหนาหรือเปล่า หลังจากที่ได้ทำการใช้แล้วล้างชำระล้างและก็ใช้ผ้าถูให้แห้ง ทาน้ำมันป้องกันสนิมแล้วเก็บเข้าที่เข้าทางให้เรียบร้อย

f:id:Selamudder80:20190420165755j:plain

จอบ ใช้สำหรับขุดดิน

บัวรดน้ำ
บัวรดน้ำ ใช้รดน้ำต้นกล้าหรือต้นไม้ที่มีขนาดเล็กลำต้นอ่อน น้ำที่ออกมาจากฝักบัวจะเป็นสายขนาดเล็ก ช่วยทำให้น้ำกับพืชได้ทั่วถึงแล้วก็ต้นไม้ไม่บอบช้ำ เมื่อใช้แล้วล้างชำระล้างเก็บเศษต้นหญ้าออกมาจากบัวรดน้ำเพื่อไม่ให้อุดตันฝักบัวเมื่อใช้ประโยชน์รดน้ำครั้งต่อมา คว่ำให้น้ำแห้งแล้วเก็บเข้าที่เข้าทาง

f:id:Selamudder80:20190420165826j:plain

บัวรดน้ำ ใช้รดน้ำต้นไม้

กรรไกรตัดหญ้า
กรรไกรตัดหญ้า ใช้ตัดต้นหญ้าที่ไม่สูงนัก หรือใช้ ตัดแต่งหญ้าให้เรียบเสมอกัน

f:id:Selamudder80:20190420165904j:plain

กรรไกรตัดหญ้า ใช้ตัดต้นหญ้าให้เรียบเสมอกัน

กรรไกรตัดกิ่ง
กรรไกรตัดกิ่ง ใช้สำหรับตัดแต่งก้านไม้ขนาดเล็ก ใช้ตัดแต่งก้านไม้ให้ได้รูปทรงตามอยาก ตัดใบพืชที่แห้ง ตัดใบพืชที่เป็นโรคทิ้ง ตัดแต่งต้นไม้ที่มีใบดกเหลือเกิน เมื่อใช้แล้วควรถูชำระล้างแล้วทาด้วยน้ำมันเพื่อป้องกันสนิมและก็หยอดน้ำมันสปริงขากรรไกร เก็บเข้าที่ให้เป็นระเบียบ

f:id:Selamudder80:20190420170027j:plain

กรรไกรตัดกิ่ง ใช้สำหรับตัดแต่งก้านให้ได้รูปทรง

มีดถางต้นหญ้า
มีดดายต้นหญ้า ใช้สำหรับถางหญ้าที่ขึ้นสูง ก่อนใช้ควรตรวจดูว่าด้ามแน่นดีหรือเปล่า ขณะใช้มีดดายต้นหญ้าต้องระวังให้มาก เนื่องจากมีดถางต้นหญ้ามีความคม เมื่อใช้มีดดายหญ้าแล้ว ควรล้างชำระล้างโดยใช้ผ้า ขัดถูให้แห้ง ทาน้ำมันป้องกันสนิม

f:id:Selamudder80:20190420170106j:plain

มีดดายต้นหญ้า ใช้สำหรับถางหญ้าที่ขึ้นสูง

 

www.youtube.com

เพราะอะไรชาวไร่นิยมใช้ เครื่องยนต์สูบน้ำ ในเขตพื้นที่ทำไร่ทำนา

เครื่องสูบน้ำ

เครื่องยนต์สูบน้ำใช้ดูดน้ำในพื้นที่ทำไร่ปลูกข้าว เครื่องยนต์สูบน้ำ Vigotech เหมาะสำหรับดูดน้ำจากแหล่งน้ำ ดังเช่น ลำคลอง ลำน้ำ เข้าพื้นที่ๆปรารถนาใช้น้ำ ตัวอย่างเช่นพื้นที่สำหรับเพาะปลูก ร่องน้ำในสวน หรือใช้ลำเรียงน้ำเพื่อใช้เพื่อการก่อสร้าง ดูดน้ำขังบ่อขุดที่เกิดขึ้นจากน้ำฝนท่วมขัง

https://www.youtube.com/watch?v=005uPn4zCHQ


ชาวนาชาวไร่นิยมใช้แบบเครื่องยนต์สูบน้ำ เนื่องจากไม่ใช้กระแสไฟฟ้าเพราะว่าทำงานด้วยเครื่องจักร โดยใช้น้ำมัน แต่ว่าถ้าเกิดพื้นที่ของคุณมีไฟฟ้าเข้าถึงหรือมีเครื่องปั่นไฟก็สามารถใช้ปั๊มน้ำแบบไฟฟ้าได้ เครื่องสูบน้ำใช้สำหรับงานลำเลียงน้ำเพื่อการเกษตร งานระบายน้ำเร่งด่วน สำหรับงานระบายน้ำปริมาณมากๆหรือ งานระบายน้ำ หรือแหล่งน้ำท่วมขัง อุทกภัย ดูดน้ำเข้าไร่ สระว่ายน้ำ

https://www.youtube.com/watch?v=ArYzvW3UFB4


ถ้าเกิดคุณพอใจ เครื่องยนต์สูบน้ำ ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่เว็บ เรามั่นอกมั่นใจได้ เรากระทำการเทสเครื่องก่อนส่งให้ลูกค้าทุกคราว แล้วก็เครื่องจักรประหยัดน้ำมัน เครื่องยนต์สมรรถนะสูง คงทน

www.vigotech.co.th

10 เครื่องมือช่าง ที่ควรจะมีติดบ้านไว้กันเวลาเผชิญกับปัญหาบ้าน

เครื่องมือช่าง

 

การดูแลบ้านไม่ใช้ว่าจะง่าย เครื่องมือช่าง เป็นอุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ด้วยเหตุว่าเราไม่มีวันทราบเลยว่าวันนี้วันพรุ่งนี้ที่บ้านเราจะมีอะไรเสียหรือพังบ้าง ด้วยเหตุนั้นการมีเครื่องมือช่างประจำบ้านไว้งานย่อมดีมากยิ่งกว่า ซึ่งถ้าเรียกช่างก็อาจเสียเงินไม่น้อย แค่มีเครื่องมือช่างพื้นฐานที่สามารถใช้งานได้อย่างนานาประการ ก็ช่วยทำให้เราปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมสิ่งของด้านในบ้านได้แล้ว

 

https://www.youtube.com/watch?v=nvK4rF8zp08  

พวกเราจำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้าเราสามารถจะซ่อมหรือรักษาบ้านหรือเครื่องใช้ต่างๆด้วยตัวเรา เพราะฉะนั้น การมีเครื่องมือช่างประจำบ้านไว้มีประโยชน์อย่างแน่แท้ วันนี้เราจะบอกตัวอย่าง เครื่องมือช่างพื้นฐานที่พวกเราต้องมีติดบ้านไว้กันเวลาประสบพบเจอกับปัญหา เราก็สามารถลงมือปัญหาได้ทันที

กล่องที่เอาไว้ใส่เครื่องมือก็เลยมีความจำเป็นเช่นกัน เนื่องจากว่าเมื่อเรามีอุปกรณ์ต่างๆเราก็ควรจะเก็บอุปกรณ์เหล่านั้นให้เรียบร้อย เพื่อไม่ยุ่งยากต่อการใช้งานแล้วก็ป้องกันก ารหาย

 

https://www.youtube.com/watch?v=qRVSNlq_zNo

แล้วก็นี่คือเครื่องมือช่างเบื้องต้นที่มีประจำบ้านไว้ ดังเช่นว่า 1.ไขควง 2.ค้อน 3.ตลับเมตร 4.คีม 5.มีดคัดเตอร์ 6.ประแจ 7.ที่วัดระดับน้ำ 8.ไฟฉาย 9.สว่าน 10.เลื่อยวงเดือน 11.เครื่องขัดกระดาษทราย 12.เครื่องดูดฝุ่น

แล้วก็นี้เป็นเครื่องมือช่างที่จะช่วยถ้าว่ามีเหตุจำเป็นที่พวกเราสามารถจะปรับปรุงแก้ไขซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาบ้านหรือเครื่องใช้ต่างๆด้วยตัวเราเองได้

บทความเกี่ยวกับการเลือกซื้อ เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

f:id:Selamudder80:20181024104116j:plain

เครื่องตัดหญ้าสะพายหลัง เหมาะกับตัดหญ้าลำต้นสูงๆยกตัวอย่างเช่นพวกต้นหญ้าคาที่ขึ้นตามข้างถนน มีจุดแข็งอยู่ที่กำลังแรงของเครื่องสำหรับตัดหญ้ายาวๆแล้วก็อายุการใช้งานที่นานของเครื่องยนต์กลไก แต่ว่าไม่เหมาะสำหรับใช้งานในบ้าน

เนื่องจากจำเป็นจะต้องสะพายไว้บนบ่า ถึงจะมีน้ำหนักไม่เท่าไรนัก แต่ตะพายไว้นานๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน และก็ที่สำคัญคือ เรื่องของความปลอดภัย เครื่องตัดหญ้าสะพายหลังอยากความชำนิชำนาญของผู้ใช้เครื่องค่อนข้างสูง ช่องทางที่เศษต้นหญ้า หรือเศษก้อนกรวดก้อนดินจะกระเด็นใส่ตาของผู้ใช้มีออกจะมาก หรือบางทีอาจกระเด็นโดนรถโดนกระจกเสียหาย

รีวิว เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า 4 จังหวะ รอบจัด ประหยัดแรง - YouTube

 

จึงไม่แนะนำคนที่ปราศจากความเชี่ยวชาญให้ใช้เครื่องประเภทนี้ หากปรารถนาใช้ เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า จริงๆเครื่องมือสำคัญที่จะต้องซื้อมาใช้พร้อมกันไปด้วยเป็น แว่นสายตานิรภัย ให้สวมเมื่อใดก็ตามใช้เครื่อง ปกป้องเศษก้านไม้หรือก้อนหินกระเด็นเข้าตา แล้วก็ก่อนตัดทุกคราว

การใช้งานและการดูแลรักษา เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า 2 จังหวะ 2.4 แรงม้า วีโกเทค https://www.youtube.com/watch?v=FsnUR8fnZVI

จำเป็นต้องเดินตรวจสอบพื้นที่ เก็บเศษหินเศษปูนออกให้หมดสนามก่อนเสมอ หากอยากได้ความคงทนขอเสนอแนะ เครื่องตัดหญ้าสะพายหลัง อาจกล่าวได้ว่า ซื้อเครื่องเดียวใช้ไปตลอดชีวิตก็ว่าได้ มีทั้งยังแบบเครื่องจักร 2 จังหวะ และก็ 4 จังหวะให้เลือกตามความถนัด

เลือกซื้อ เครื่องตัดหญ้าสะพายบ่า วีโกเทค มีคุณภาพและคุ้มค่า

f:id:Selamudder80:20181024104131j:plain