วิธีทำน้ำหมักชีวภาพ ผลิออกเร็ว ต่อต้านโรค เพิ่มผลิตผล ประโยชน์ที่ได้รับมาจากน้ำหมักชีวภาพ

f:id:Selamudder80:20200411103843j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

นํ้าหมักชีวภาพ หมายถึงน้ำหมักชีวภาพที่ได้จากการหมักเศษซากพืช ซากสัตว์ หรือสารอินทรีย์ประเภทต่างๆที่หาได้ในแคว้นด้วยจุลินทรีย์เจาะจง ซึ่งอาจหมักร่วมกับกากน้ำตาลหรือน้ำตาลทรายแดง

น้ำหมักชีวภาพ หรือ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ ปุ๋ยน้ำจุลินทรีย์ ตามแต่จะเรียก เป็นสารละลายเข้มข้นที่ได้จากการดองเศษพืช หรือสัตว์ กับสารที่ให้ความหวาน กระทั่งถูกสลายตัวโดยจุลินทรีย์ ซึ่งเมื่อผ่านแนวทางการแล้วจะได้สารละลายเข้มข้นสีน้ำตาล ประกอบไปด้วยจุลินทรีย์ และก็สารอินทรีย์หลายประเภท

เดิมทีนั้นเป้าหมายของการคิดค้น "น้ำหมักชีวภาพ" ขึ้นมา เพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตรโดยเฉพาะ แม้กระนั้นตอนหลังก็มีการนำน้ำหมักชีวภาพ มาดัดแปลงประโยชน์ในด้านอื่นเหมือนกัน

f:id:Selamudder80:20200411104040j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

วิธีการหมักของน้ำหมักชีวภาพ จะเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากการสลายตัวสารอินทรีย์ด้วยจุลินทรีย์ โดยใช้กากน้ำตาล แล้วก็น้ำตาลจากสารอินทรีย์เป็นแหล่งพลังงาน แบ่งเป็น 2 แบบ คือ

1. การหมักดองแบบอยากได้ออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่อยากได้ออกซิเจนสำหรับแนวทางการย่อยสลายสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน และก็ของกินให้แก่เซลล์ การดองประเภทนี้จะกำเนิดน้อยในกระบวนการหมักน้ำหมักชีวภาพ และก็มักกำเนิดในช่วงแรกของการดอง แม้กระนั้นเมื่อออกซิเจนในน้ำ แล้วก็อากาศหมด จุลินทรีย์แบบใช้ออกซิเจนจะลดลง รวมทั้งหมดไปจนถึงเหลือเฉพาะการดองจากจุลินทรีย์แบบไม่ใช้ออกซิเจน

2. การหมักดองแบบไม่อยากออกซิเจน เป็นการหมักด้วยจุลินทรีย์ประเภทที่ไม่อยากออกซิเจนสำหรับขั้นตอนเสื่อมสภาพสารอินทรีย์ เพื่อสร้างเป็นพลังงาน รวมทั้งอาหารให้แก่เซลล์ การหมักดองประเภทนี้จะกำเนิดเป็นส่วนมากในกรรมวิธีการหมักน้ำหมักชีวภาพ สินค้าที่ได้คือ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ส่วนพวกเมอเคปเทนและก็ก๊าสซัลไฟด์ปลดปล่อยออกมาเล็กน้อย


การผลิตน้ำหมักชีวภาพ

วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพ
วิธีการทำน้ำหมักชีวภาพจะเลือกใช้อุปกรณ์ใดสำหรับในการหมักนั้น ควรจะเลือกใช้อุปกรณ์หมักซึ่งสามารถหาได้ง่ายในครัวเรือน แปลงเกษตรของตัวเองหรือหาได้ง่ายในแคว้น ส่วนหัวเชื้อสามารถเลือกใช้สารเร่งพด.2 หรือ พด.6 ตามจุดมุ่งหมายสำหรับเพื่อการใช้ประโยชน์เป็นหลัก

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 1
หมักจากผักรวมทั้งผลไม้ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 7 วัน)
– ผัก หรือผลไม้ 4 ส่วน เป็นต้นว่า 40 กิโล
– กากน้ำตาล 1 ส่วน อาทิเช่น 10 ลิตร
– น้ำ 1 ส่วน เช่น 10 ลิตร
– สารเร่ง พด.2 ปริมาณ 1 ซอง (25 กรัม) ใช้หมักได้ 50 ลิตร

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร 2
หมักจากปลาหรือหอยเชอรี่ จำนวน 50 ลิตร (หมัก 21 วัน)
– ปลา 3 ส่วน
– กากน้ำตาล 1 ส่วน
– ผลไม้ 1 ส่วน
– น้ำ 1 ส่วน
– สารเร่ง พด.6 หรือ พด.2 จำนวน 1 ซอง (25 กรัม)

 

• น้ำหมักชีวภาพ สูตร น้ำหมักผลไม้
ส่วนประกอบ
ฟักทอง 1 ผล (3-4 กก.)
กล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี
สัปปะรด 1 ลูก
มะละกอสุก 1 ลูก
กากน้ำตาล 1 ลิตร
น้ำกิน 20-30 ลิตร
ถังหมักขนาด 50 ลิตร


วิธีทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ​ | ทำปุ๋ยใช้เองง่ายๆ​ | พืชผัก​ ผลไม้งาม​ หวานกรอบ

วิธีการทำน้ำหมักผลไม้
1.สับผลไม้แต่ละจำพวกตามภาพ โดยไม่ต้องสับละเอียดมาก เพราะเหตุว่าจะมีผลให้เวลากรองเอากากออกทำเป็นยาก

2.เอาผลไม้ที่สับเสร็จแล้วลงในถังหมักที่ได้จัดเตรียมไว้
3.เพิ่มเติมกากน้ำตาลแล้วก็เพิ่มน้ำดื่มตามลงไป จากนั้นกวนทุกๆสิ่งทุกๆอย่างให้เข้ากันเพื่อกากน้ำตาลละลายปิดฝาถัง
4.หมักในระยะเวลา 2 สัปดาห์ ให้มีการเปิดกวนอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
5.หมักจนกระทั่งครบ 2 อาทิตย์แล้วกรองเอากากออกด้วยที่กรอง กรอกน้ำหมักผลไม้ที่ได้ใส่ขวดหรือแกนลอนปิดฝาให้มิดชิด จากนี้ก็สามารถนำไปใช้ได้เลย หากขวดหรือแกนลอนมีก๊าซ ให้หมั่นระบายแก๊สออกเดือนละ 1-2 ครั้ง
ข้อควรตรึกตรองสำหรับในการหมัก
การดองควรจะใช้ถังแบบมีฝาปิดสนิท เพราะเหตุว่าอาจมีเแมลงวันลงไปไข่ใส่จนทำให้มีหนอนได้ ส่วนการปรับปรุงสำหรับผมเป็น หาเทปใสพันฝาถังรอบๆ

f:id:Selamudder80:20200411103836j:plain

f:id:Selamudder80:20200411103843j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

การใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนประกอบในตัวหมักจะก่อให้ได้น้ำหมักที่มีสีน้ำตาลเข้ม แม้กระนั้นแม้หมักด้วยอินทรีย์วัตถุเพียงอย่างเดียวจะได้น้ำหมักเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือตามสีของวัตถุที่เพิ่มเติมลงหมัก


ประเภทของน้ำหมักชีวภาพ
น้ำหมักชีวภาพแบ่งตามชนิดวัตถุดิบที่ใช้หมัก 3 ประเภท เป็น
1. น้ำหมักชีวภาพจากพืช แบ่งเป็น 2 ชนิด เป็น
– ประเภทที่ใช้ผัก แล้วก็เศษพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษพืช เศษผักจากแปลงเกษตรข้างหลังการเก็บ รวมทั้งคัดแยกผลผลิต น้ำหมักที่ได้มีลักษณะเป็นน้ำข้นสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน กรดอะมิโน กรดแลคติค แล้วก็ฮอร์โมนโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมี
– ชนิดที่ใช้ขยะเปียก เป็นน้ำหมักที่ได้จากขยะในครอบครัว อาทิเช่น เศษอาหาร เศษผักผลไม้ น้ำหมักที่ได้มีลักษณะข้นสีน้ำตาลจางกว่าประเภทแรก และก็มีกลิ่นหอมสดชื่นน้อยกว่า ครั้งคราวอาจมีกลิ่นเหม็นบ้างบางส่วน จำต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม
2. น้ำหมักชีวภาพจากสัตว์ เป็นน้ำหมักที่ได้จากเศษเนื้อต่างๆดังเช่นว่า เนื้อปลา เนื้อหอย ฯลฯ น้ำหมักที่ได้จะมีสีน้ำตาลเข้ม มักมีกลิ่นเหม็นมากยิ่งกว่าน้ำหมักที่ได้จากวัตถุหมักอื่น จะต้องใช้กากน้ำตาลเป็นส่วนผสม

3. น้ำหมักชีวภาพผสม เป็นน้ำหมักที่ได้จาการหมักพืช และก็เนื้อสัตว์รวมกัน โดยมากมักเป็นแหล่งที่ได้จากเศษอาหารในครัวเรือนเป็นหลัก


วิธีทำน้ำหมัก ปุ๋ยน้ำชีวภาพจากผักผลไม้เศษๆที่เหลือจากครัว โดยไม่ใช้หัวเชื้อ หมักแบบเริ่มต้น


ลักษณะน้ำหมักชีวภาพที่หมักสมบูรณ์
1. น้ำหมักชีวภาพมีลักษณะสีน้ำตาลหรือน้ำตาลเข้มใส ไม่ขุ่นดำ น้ำหมักจะอยู่ส่วนบน ส่วนกากจะตกลงด้านล่าง

2. น้ำหมักชีวภาพไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แต่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นเสมือนเหล้าหมักหรือมีกลิ่นของกากน้ำตาล
แล้วก็กลิ่นเหม็นเปรี้ยว
3. น้ำหมักชีวภาพต้องมีฟองก๊าสไหมมีฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถ้าหากเกิดการหมักอุปกรณ์จนกระทั่งหมดแล้ว
4. น้ำหมักชีวภาพจะมีค่าความเป็นกรด-ด่าง ราว 3-4


Easy home l แชร์เก็บไว้เลย สอนทำ น้ําหมักชีวภาพ สับปะรด เปลือกสับปะรดอย่าทิ้งมาทำน้ำหมักที่ดี


ทำน้ำหมักชีวภาพจากเศษอาหาร

คุณสมบัติของน้ำหมักชีวภาพ
1. ประกอบด้วยฮอร์โมนที่นำมาใช้ต่อการเติบโตของพืชหลายอย่าง อาทิเช่น ออกซิน ไซโตตไคนิน แล้วก็จิบเบอร์เรลลิน
2. กรดอินทรีย์จำพวกต่างๆยกตัวอย่างเช่น กรดอะซีตำหนิก กรดแลคติก กรดอะมิโน แล้วก็กรดฮิวไม่ก
3. มีวิตามินบี วิตามินซี วิตามินเอ รวมทั้งอื่นๆขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์หมัก
4. มีความเป็นกรดที่ pH ราวๆ 3-4

f:id:Selamudder80:20200411104037j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

ประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากน้ำหมักชีวภาพ
1. ด้านการกสิกรรม
ด้านการเกษตร น้ำหมักชีวภาพ มีธาตุอาหารสำคัญ อีกทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม กำมะถัน อื่นๆอีกมากมาย จึงสามารถนำไปเป็นปุ๋ย เร่งอัตราการเติบโตของพืช เพิ่มคุณภาพของผลิตผลให้ดีขึ้น และก็ยังสามารถใช้ไล่แมลงศัตรูพืชได้ด้วย
– ใช้ฉีดพ่นหรือเพิ่มเติมในดินหรือน้ำ ช่วยปรับให้สภาพความเป็นกรด-ด่าง ในดิน แล้วก็น้ำ
– ใช้เติมในดิน ช่วยทำให้ภาวะองค์ประกอบของดิน ทำให้ดินซึ่งร่วนซุย ซับน้ำได้ดี และช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน และก็น้ำ
– ช่วยเพิ่มอัตราการเสื่อมสลายสารอินทรีย์ในดิน แล้วก็น้ำ
– ใช้รดต้นพืชหรือแช่เมล็ดพันธุ์ ท่อนพันธุ์เพื่อเร่งการเกิดราก และก็การเติบโตของพืช
– เป็นสารที่ปฏิบัติหน้าที่ราวกับฮอร์โมนพืช กระตุ้นการเกิดราก และการเจริญเติบโต ทำให้ผลิตผล รวมทั้งประสิทธิภาพสูงมากขึ้น
– ใช้ เครื่องพ่นยา ฉีดพ่นในแปลงเกษตร ช่วยต้านแมลงศัตรูพืช และก็ลดจำนวนแมลงศัตรูพืช
– ใช้ฉีดพ่นในแปลงผัก ผลไม้ หรือผลผลิตต่างๆเพื่อคุ้มครองป้องกันการทำลายผลผลิตของแมลง

www.vigotech.in.th

2. ด้านปศุสัตว์
ด้านปศุสัตว์ สามารถช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น น้ำเสียจากฟาร์มสัตว์ได้ ช่วยคุ้มครองโรคระบาดต่างๆในสัตว์แทนการ ใช้ยาปฏิชีวนะ ทำให้สัตว์แข็งแรง มีความต้านทานโรค ช่วยกำจัดแมลงวัน ฯลฯ
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นดินในฟาร์มเพื่อลดกลิ่นเหม็นของมูลสัตว์ ซากพืช ซากสัตว์ในฟาร์ม
– ใช้เติมในน้ำเสียเพื่อกำจัดน้ำเสียด้วยการเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในการย่อยสารอินทรีย์ในน้ำเสีย
– ใช้ฉีดพ่นตามพื้นหรือตัวสัตว์เพื่อป้องกัน และลดปริมาณของจุลินทรีย์ก่อโทษ และเชื้อโรคต่างๆ
– ช่วยป้องกันแมลงวัน แล้วก็การเจริญเติบโตของหนอนแมลงต่างๆ
– ใช้ผสมอาหารสัตว์พวกหญ้าเพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์ในกระเพาะสัตว์บดเอื้อง
– ใช้หมักต้นหญ้า ฟางข้าวหรือหญ้าอาหารสัตว์เพื่อเกิดการย่อยง่าย

3. ด้านการประมง
ด้านการประมง ช่วยควบคุมคุณภาพน้ำในบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ ช่วยแก้ไขปัญหาโรคพยาธิในน้ำ ช่วยรักษาโรคแผลต่างๆในปลา กบ จระเข้ได้ ช่วยลดปริมาณขี้เลนในบ่อ ช่วยให้เลนไม่เน่า ใช้ในด้านการประมงมักใช้น้ำหมักชีวภาพเพิ่มเติมในบ่อเลี้ยงปลาเพื่อประโยชน์ในด้านต่างๆเป็น
– เพื่อปรับความเป็นกรด-ด่าง
– เพื่อเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สำหรับในการเสื่อมสภาพสิ่งสกปรกในบ่อปลา
– เพื่อต้านทาน รวมทั้งลดปริมาณเชื้อโรคที่ก่อโทษในสัตว์น้ำ
– เพื่อรักษาแผลของสัตว์น้ำ
– ช่วยลดจำนวนขี้เลนในบ่อ ด้วยการช่วยย่อยสลายสิ่งบูดเน่าข้างล่างบ่อ

4. ด้านสภาพแวดล้อม
ด้านสภาพแวดล้อม น้ำหมักชีวภาพ สามารถช่วยบำบัดน้ำเสียจากการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม ชุมชน และก็สถานประกอบการทั่วไป แถมยังช่วยดับกลิ่นเหม็นจากกองขยะ การเลี้ยงสัตว์ โรงงานอุตสาหกรรม แล้วก็ชุมชนต่างๆนอกนั้นยังช่วยทำให้สภาพภูมิอากาศที่เสียให้มีชีวิตชีวา แล้วก็มีภาวะดีขึ้น
– ใช้เติมในระบบบำบัดน้ำเสียจากการเกษตร ปศุสัตว์ การประมง โรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งชุมชน
– ใช้เติมในบ่อขยะ ช่วยสำหรับการย่อยสลายขยะ และก็ดับกลิ่นเหม็น
– ใช้ปรับสภาพของเสียจากครอบครัวก้่อนนำไปใช้ผลดีสำหรับในการเกษตร

5.ผลดีในครอบครัว พวกเราสามารถนำน้ำหมักชีวภาพ มาใช้เพื่อการชะล้างชำระล้างแทน สบู่ ผงซักฟอก แชมพู น้ำยาที่เอาไว้ล้างจาน รวมถึงใช้ขจัดกลิ่นในส้วม โถส้วม ท่อระบายน้ำ ฯลฯ ได้ด้วย

f:id:Selamudder80:20200411104700j:plain

นํ้าหมักชีวภาพ

แนวทางการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อการซักล้าง
น้ำหมักชีวภาพ สามารถประยุกต์ใช้ประโยชน์ในการซักล้างได้ โดยมีสูตรให้นำผลไม้ เปลือกผลไม้ (ฝักส้มป่อย , มะคำดีควาย , มะนาว อื่นๆอีกมากมาย) 3 ส่วน น้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลอ้อย 1 ส่วน แล้วก็น้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดสนิท

โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง แล้วหมั่นเปิดฝาคลายแก๊สออก โดยจำเป็นต้องวางไว้ภายในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงอาทิตย์ หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพ สำหรับซักผ้า หรือล้างจานได้ ซึ่งสูตรนี้หากว่าผ้าจะมีราขึ้น ถ้าหากนำผ้าไปแช่ทิ้งเอาไว้ภายในน้ำหมักชีวภาพก็จะสามารถซักออกได้


ปุ๋ยน้ำหมักเศษผักผลไม้ ทำง่ายไม่เปลืองตัง (น้ำหมักชีวภาพ)


กระบวนการทำ น้ำหมักชีวภาพ เพื่อขจัดกลิ่น
สูตรหนึ่งของแนวทางการทำน้ำหมักชีวภาพมาดับกลิ่นเป็นใช้เศษอาหาร พืชผัก ผลไม้ที่เหลือทิ้ง 3 ส่วน กากน้ำตาลหรือโมลาส 1 ส่วน และน้ำ 10 ส่วน ใส่รวมกันในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด โดยให้เหลือช่องว่างไว้ราว 1 ใน 5 ของขวด/ถัง หมักไว้นาน 3 เดือน ก็จะได้น้ำหมักชีวภาพใช้ขจัดกลิ่นในห้องอาบน้ำ โถส้วม ท่อสำหรับเพื่อระบายน้ำ กลิ่นปัสสาวะหมา ฯลฯ ได้อย่างดี

 

ข้อควรคำนึงในการใช้ น้ำหมักชีวภาพ
1. แม้ใช้น้ำหมักชีวภาพกับพืช จำต้องใช้ปริมาณเจือจาง เพราะแม้ความเข้มข้นสูงเหลือเกิน อาจจะเป็นผลให้พืชหยุดชะงักการเจริญเติบโต และตายได้
2. ระหว่างหมัก จะเกิดก๊าซต่างๆในภาชนะ ด้วยเหตุนั้นจำเป็นต้องหมั่นเปิดฝาออก เพื่อระบายก๊าซ แล้วปิดฝากลับให้สนิทในทันที
3. แม้ใช้น้ำก๊อกสำหรับการหมัก จำต้องต้มให้สุก เพื่อไล่คลอรีนออกไปก่อน เนื่องจากคลอรีนบางทีอาจมีอันตรายต่อจุลินทรีย์ที่ใช้สำหรับการหมัก
4. พืชบางประเภท ตัวอย่างเช่น เปลือกส้ม ไม่เหมาะสำหรับในการทำน้ำหมักชีวภาพ เนื่องจากน้ำมันที่ฉาบผิวเปลือกส้มเป็นพิษต่อจุลินทรีย์


น้ำหมักเศษผักบำรุงพืช ผัก ผลไม้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้ว

เพื่อให้มีความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่ได้รับการยืนยันจากองค์การอาหารรวมทั้งยา รวมถึงจำเป็นต้องพิจารณาความน่าไว้วางใจของผู้ผลิต แหล่งผลิต แล้วก็บรรจุภัณฑ์พัสดุภัณฑ์ด้วย แต่ว่าถ้าหากว่าจะนำ "น้ำหมักชีวภาพ" ฉีดพ่นยาด้วย เครื่องพ่นยา มาใช้ในครอบครัว หรือการเกษตร ลองทำง่ายๆด้วยตัวเอง ก็จะปลอดภัยและออมที่สุด