เทปน้ำหยด เป็นยังไง และก็ส่วนดีส่วนเสียของระบบน้ำหยด
ระบบน้ำหยดเป็นแนวทางหนึ่งในหลายวิธี ระบบน้ำหยดมีลักษณะเป็นน้ำหยด จากหัวน้ำหยดหรือท่อน้ำหยด/ท่อน้ำพุ่ง/เทปน้ำหยด รวมทั้งแนวทางการทำให้น้ำด้วยระบบสเปร์ขนาดเล็ก หรือหัวพ่นหมอก
ระบบน้ำหยด เป็นการให้น้ำแก่พืชโดยการส่งน้ำผ่านระบบท่อและก็ปล่อยน้ำออกทางหัวน้ำหยด ซึ่งจะติดตั้งไว้รอบๆโคนของต้นพืช และก็น้ำจะหยดซึมลงมาที่รอบๆรากพืชอย่างช้าๆและก็บ่อย เหมาะกับดินร่วนซุย ทำให้ดินมีความชุ่มชื่นคงที่ในระดับที่พืชอยากได้ และทำให้พืชเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบน้ำหยด คือระบบการปล่อยน้ำในปริมาณช้าๆตามตำแหน่งที่อยากอย่างตรงจุด เทปน้ำหยด เหมาะกับ ไร่อ้อย มันสำประหลัง ข้าวโพด แตงโม เมล่อน อื่นๆอีกมากมาย
จัดการน้ำ ระบบเทปน้ำหยด ชลประทานการจัดการน้ําเพื่อการเกษตร
เทปน้ำหยด แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหมายถึง
1. เทปน้ำหยดแบบแบน คุณลักษณะเด่นหมายถึงราคาน้อยมากกว่า ม้วนเก็บสายง่ายยิ่งกว่า เพราะว่าไม่มีกิ๊บด้านใน แต่เวลาวาง จำต้องวางให้ถูก โดยวางตะเข็บหงายขึ้น จะหยดดี หยดไว
2. เทปนน้ำหยดแบบกลม (กิ๊บ) จุดแข็งเป็นเกษตรกรคนไม่ใช่น้อยถูกใจเทปกลมเพราะ การวางสายจะง่ายดายยิ่งกว่า
ข้อดีของการให้น้ำพืชด้วยระบบน้ำหยด เป็น เทปน้ำหยดราคาถูก ความประหยัดด้วยการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากว่าให้น้ำพืชในปริมาณที่พอดีและก็ถูกจุดหรือ ละแวกที่พืชต้องการ ทำให้พืชเจริญวัยได้ดี ส่วนวัชพืชที่ไม่อยากให้เติบโตนั้นก็จะขาด แคลนน้ำไปตามสภาพ เหมาะกับพืชต้นเล็กถึงปานกลางหรือเกษตรกรบางรายก็ปรับเปลี่ยนทำเป็นวงกลมแล้ว เทปน้ำหยดปล่อยน้ำหยดหลายจุดให้กับพืชต้นเดียวสำหรับพืชยืนต้นที่มีลำต้นใหญ่รวมทั้งรัศมี รากกว้าง
ข้อบกพร่องของการให้น้ำพืชด้วยระบบน้ำหยด เป็นน้ำจำต้องสะอาด จะต้องทำระบบกรองน้ำให้กับระบบ เพราะเหตุว่ารูน้ำหยดอุดตันง่าย ปั๊มที่ใช้ควรเป็นปั๊มที่มีแรงดันสูงได้แก่ ปั๊มรุ่น 4020 แรงดันสูงสุด 7.2 บาร์ เมื่อท่านวางระบบเรียบร้อยระวังอยู่ 2 อย่างคือ หนูทุ่งนา กับไฟป่าให้ตรวจเช็คทุกๆอาทิตย์ ถ้าหากฝังดิน หนูจะกัดขาด
เทปน้ำหยดใช้กับพืชอะไรได้บ้าง...? ระยะหยดเท่าไหร่...? เหมาะกับพืชอะไร...? เรามีคำตอบ
จุดเด่นของระบบการให้นํ้าแบบนํ้าหยด (แยกเป็นข้อๆ)
1. สมรรถนะการให้นํ้าสูงมากมาย เนื่องจากว่าสามารถควบคุมนํ้าได้ทุกขั้นตอน และก็มีการสูญเสียโดยการระเหยน้อย
2. ค่าใช้สอยสำหรับในการให้นํ้าน้อยเนื่องจากว่าไม่จำเป็นต้องใช้แรงงานสำหรับในการให้นํ้ามากมาย
3. สามารถให้ปุ้ยและสารเคมีอื่นๆแก่พืชพร้อมๆกับการให้นํ้าได้ด้วย โดยการผสมปุ๋ยอินทรีย์หรือสารเคมีเข้ากับนํ้าทางท่อดูดของเครื่องสูบนํ้าเข้าไปในระบบ
4. ไม่มีปัญหาโรคพืชหรือแมลงที่เกี่ยวโยงจากการเปียกแฉะของใบ
5. ลดปัญหาของการแพร่ของวัชพืชเพราะว่านํ้าที่ให้แก่พืชจะแฉะผิวดินเป็นบริเวณแคบๆเพียงแค่นั้น
6. ไม่มีปัญหาเรื่องลมแรงที่จะพัดพานํ้าไปตกที่อื่น
7. ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ระบบส่งนํ้าขนาดใหญ่หรือเครื่องสูบนํ้าที่มีแรงม้าสูง
8. ด้วยเหตุว่าการให้ปุ๋ยอินทรีย์และก็สารเคมีโดยการผสมลงไปกับนํ้า ด้วยเหตุนี้ค้าใช้จ่ายสําหรับปุ๋ยธรรมชาติแล้วก็สารเคมีก็จะน้อยลงด้วย
9. ระบบการให้นํ้าอย่างนี้จะมีระยะเวลาการใช้แรงงานที่นานยกเว้นเรื่องการอุดตันของหัวจ่ายนํ้า
10. สามารถทําการติดตั้งการให้นํ้าแบบอัตโนมัติได้ไม่ยาก ตัวอย่างเช่น ให้นํ้าตามกําทีดในขณะที่ตั้งไว้ หรือให้นํ้าเมื่อความชื้นของดินในเขตรากน้อยลงถึงระดับหนึ่งฯลฯ
11. ไม่มีปัญหาเรื่องอัตราการซึมของนํ้าเข้าไปในดิน เพราะเหตุว่าอัตราการให้นํ้าจะไม่มากพอที่จะทําให้ดินเปียกชุ่มเป็นบริเวณกว้างอยู่แล้ว
12. เนื่องจากจำนวนนํ้าที่ให้และก็ที่สูญเสียไปโดยการระเหยน้อย ฉะนั้นการสะสมของเกลือที่ติดมากับนํ้าในเขตรากพืชจึงไม่มาก
จุดด้วยของระบบการให้นํ้าแบบนํ้าหยด
1. มีปัญหาหัวข้อการอุดตันที่ศีรษะจ่ายนํ้ามากมายเนื่องจากตะกอนทรายตะไคร่นํ้า หรือเนื่องจากการสะสมตัวของสารเคมีในนํ้า
2. เนื่องด้วยรอบๆที่ชื้นแฉะไม่กว้างขวางนัก ความเข้มข้นของเกลือซึ่งมักจะเกิดขึ้นในรอบๆนอกของส่วนที่ชื้นแฉะจึงชอบสูงแล้วก็บางทีอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อพืชได้
3. สามารถให้ปุ๋ยแล้วก็สารเคมีอื่นๆแก่พืชพร้อมๆกับการให้นํ้าได้ด้วย โดยการผสมปุ๋ยหรือเคมีเข้ากับนํ้าทางท่อดูดของเครื่องสูบนํ้าเข้าไปในระบบ
4. ค่าลงทุนคราวแรกค่อนข้างจะสูงเนื่องจากควรจะมีเครื่องไม้เครื่องมือหลายสิ่งหลายอย่าง
การบริหารระบบน้ำหยดให้ได้ผลสูงสุด มี 3 ประการ เป็น
1. การให้น้ำปริมาณที่เหมาะสม กับความจำเป็นของพืชแต่ละจำพวก
2. การให้ปุ๋ยจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งจะละลายผ่านเข้าระบบ
3. การวางเป้าหมายการบำรุงรักษาระบบ เพื่อได้ประโยชน์ช้านานที่สุด
การที่จะพินิจพิเคราะห์ที่จะนําระบบการให้นํ้าหยดมาใช้ ควรมีการพินิจพิเคราะห์ ดังนี้
1. เมื่อมีการให้นํ้าแล้ว ปริมาณและก็ประสิทธิภาพของผลผลิตจะเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใดคุ้มหรือเปล่า
2. ราคาของผลิตผลนั้นคุ้มค่ากับค้าใช้จ่ายที่เสียไปหรือเปล่ากับการที่จะลงทุนติดตั้งระบบการให้นํ้าพืช
3. จำเป็นต้องมั่นใจแล้วว่า แหล่งนํ้าที่มีอยู่นั้นมีพอเพียงกับการให้นํ้าตลอดฤดูเพาะปลูกค้าใช้จ่ายการติดตั้งระบบการให้นํ้าหยด โดยส่วนใหญ่จะมีค่าใช้จ่ายราว 10,000 ถึง 15,000 บาท/ไร่ เป็นราคาเครื่องมือรวมทั้งค่าติดตั้งทั้งปวง
การเลือกใช้เทปน้ำหยดมีสาเหตุที่ควรจะคำนึงถึงสำคัญๆเป็น
1. พืชที่ปลูก
2.ประเภทของดิน
3.ลักษณะพื้นที่(สูงต่ำ)
4. ความสม่ำเสมอ